ไม่รู้ว่ามันจะเชยระเบิดไปรึเปล่าที่พึ่งจะมาพูดถึงคุณ
ป้ามหัศจรรย์นาม ซูซาน บอยด์ (Susan Boyle) ผู้นี้ แต่ว่าได้มีโอกาสอ่านหนังสื
อของสำนักพิมพ์ freeform เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้จึงอย
ากจะเอามาแชร์ให้ทุกๆคนทราบ
กัน แม้นว่ารายการ Britain’s Got Talent ที่เป็นตัวปัจจัยสำคัญที่ทำ
ให้คุณป้าผู้นี้ได้มีโอกาสท
ี่มีชื่ออยู่ในประวัตืศาสตร
์ยูทูป เวปฝากคลิปวีดีโอชื่อดังกระ
ฉ่อนโลก จะดำเนินการจัดโชว์ก้าวเข้า
สู่ปีที่ 6 แล้วก็ตาม (ตอนของแม่นางผู้นี้ เป็นช่วงซีรีย์ที่ 3) แต่จากสื่อทั้งหลายก็ยังทำใ
ห้ แม่นางผู้นี้เป็นคนที่มีชื่
ออยู่ในประวัติศาสตร์โลกตลอ
ดไป โดยคลิปการเปิดตัวร้องเพลง I dreamed a dream จากละครเวทีสุดคลาสสิค Les Miserables ของเธอ มีผู้เข้ามาชมมากกว่า 2.5 ล้านคนในเวลาไม่กี่วัน และยอดรวมเยอะสุดเป็นอันดับ
ห้า ของประวัติศาสตร์เวปยูทูป (186 ล้านครั้ง – และเข้าใจว่าน่าจะเพิ่มขึ้น
อีกนิดหน่อยหลังจากที่พวกท่
านได้อ่านบทความของวู้ดดี้น
ี้ 555) เรามาดูกันดีกว่าว่าอะไรเป็
นสาเหตุให้คลิปของป้าเฉิ่มๆ
ผู้นี้ ฝ่าทะลุอะไรต่ออะไรที่น่าสน
ใจแล้วเข้าไปอยู่ในใจของประ
ชาชนได้อย่างไร
เกริ่นถึงประวัติของเธอเป็นการ ให้เกียรติก่อนดีกว่า ซูซาย บอยด์ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) ที่เมือง แบล็กเบริน์ แคว้น สก็อตแลนด์ ประเทศ อังกฤษ มีพี่น้องทั้งหมด 11 คนรวมตัวเธอด้วยโดยที่เธอเป็นคนสุดท้อง แม่ของเธฮคลอดเธอออกมาเป็นคนสุดท้องและขณะนั้นมีอายุถึง 50 แล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เธอมีปัญหาทางด้านสุขภาพ เพราะว่าสมองขาดออกซิเจนชั่วขณะหลังคลอด ทำให้นางมีการพัฒนาการเรียนรู้ช้ากว่าเพื่อนรุ่นๆเดียวกัน (เพื่อนๆแกล้งล้อเลียนเธอว่า Susie simple (ซูซี่ซื่อบื้อ)
เนื่องจากฐานะทางครอบครัวไม่ได้รวยโดดเด่นอะไร นางจึงมุ่งหางานทำหลังจากที่จบการศึกษาเพียงชั้นมัธยมปลายโดยเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ก็ทนทำได้เพียงหกเดือนเท่านั้นเนื่องจากนางรับรู้ด้วยตนเองว่า สิ่งที่นางรักไม่ใช่การทำครัวแต่เป็นการร้องเพลงต่างหาก นั่นจึงเป็นชีวิตการทำงานในฐานะลูกจ้างกินเงินเดือนเพียงครั้งเดียวในชีวิตของนางเท่านั้น แต่อย่าพึ่งคิดว่านางจะได้ไปทำตามความฝันแล้วสำเร็จลุล่วงอะไรขนาดนั้นนะครับ เพราะว่าชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายอย่างที่ใครๆคิดเพราะกว่าที่ความสามารถของเธอจะเจิดจรัสให้ทุกๆคนทั่วโลกเห็นก็ผ่านไปเกือบจะครึ่งทศวรรษของชีวิต ถ้า ณ วันที่ 11 เมษายน 2552 คุณผู้อ่านได้นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ที่ประเทศอังกฤษเปิดรายการชื่อดัง Britain’s Got Talents ท่านจะได้เห็นป้าแก่ๆอายุ 48 ปีคนนึงมาสมัครประกวดโชว์ความสามารถโดยการร้องเพลงละครเวทีชื่อดัง ซึ่งร้องได้ยากมาก ต่อหน้าคนดูนับพันในห้องส่ง จากบรรยากาศวันนั้นและองค์ประกอบทุกๆอย่างในห้องส่งไม่ได้มีแม้แต่สิ่งเดียวเลยที่คอยส่งเสริมหรือผลักดันให้ป้าคนนี้ไปยืนอยู่ ณ จุดเป้าสายตานั้นๆได้เลย ทุกๆคนในห้องส่งไม่เว้นแม้แต่กรรมการทั้งสามท่านก็ไม่วายที่แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามออกมาให้เห็นได้เด่นชัด แต่นางก็เลือกที่จะก้าวข้ามจุดนั้นออกมาแสดงให้ทุกๆคนรับรู้ถึงจุดยืนของตนเอง เพราะวินาทีที่นางเริ่มร้องเพลง I dreamed a dream ออกมา ผู้ชมทั้งห้องส่งและทางบ้านก็เบิกตาลุกโพลงเนื่องด้วยความอึ้งกิมกี่ของน้ำหนักและสรีระทางเสียงของเธอหล่อหลอมให้เกิดความรู้สึกอ่อนไหวและพริ้วไหวไปกับบทเพลง พร้อมทั้งถูกฝ่ามือแห่งการลงทัณฑ์ตบหน้าฉาดลงไปอย่างแรงเหตุเนื่องด้วยการที่รวบรัดตัดสินคนแต่ภายนอกลงไป หลังจากที่เธอร้องได้จนจบเพลงแล้วผู้ชมทั้งฮอลพร้อมใจกันยืนตรบมือนานกว่านาทีเพื่อแสดงความชื่นชมยินดีไปกับเธอด้วย คงไม่ต้องเถียงให้เหนื่อยเปล่าว่าความสามารถของเธอเพียงพอหรือไม่กับการที่จะได้รับเสียงปรบมือขนาดนั้น แต่หลายๆคนมองว่ามีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ปรากฎการณ์ ซูซาน บอยด์ฟีเวอร์ โด่งดังมากขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสื่อที่โหมตีแผ่ข่าวและชีวิตของเธอซึ่งคงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า ภาพลักษณ์ภายนอกกับความสามารถของเธอมันเหมือนน้ำกับน้ำมันเหลือเกินที่มันยากที่จะไปด้วยกันได้จริงๆ หรือกลยุทธ์การตัดต่ออย่างมืออาชีพของรายการที่ดึงเอาความรู้สึกเชิงลบของผู้ชมในห้องส่งตัดกับความประหลาดใจและตกตะลึงหลังได้ยินเสียงเพลงจากเธอ มันเปรียบเสมือนการที่ได้เห็นความแตกต่างเปรียบเทียบกันอย่างสุดขั้ว ก่อให้เกิดภาวะที่ต้องจดใจได้โดยง่ายและโน้มน้าวให้อยากรู้สึกที่จะติดตาม หรือจะเป็นการคอมเม้นท์จากคอมเม้นเตเตอร์ฝีปากกล้าเจ้าของรายการ อย่าง Simon Cowell ที่ขอโทษขอโพยซะยกใหญ่เนื่องจากแสดงกิริยาดูถูกและไม่สุภาพตอนที่แนะนำตัว ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆกับผู้ชายคนนี้ ซึ่งทำให้ยิ่งขับดันให้ผู้ชมทางบ้านอยากรู้มากขึ้นไปอีกว่า ผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรขนาดนั้น (แต่ตรงนี้ผมว่าน่ารักนะ ที่ทางซูซานก็แกล้งทำเป็นจำไม่ได้ว่า เคยโดนไซม่อนทำกิริยาไม่สุภาพใส่เธอ ตอนออดิชั่นครั้งแรก)
จากที่พูดไปเยอะแยะแล้วผมสรุปเรื่องที่อยากจะพูดอยู่ไม่กี่เรื่องคือ เรื่องการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพอย่างพอเหมาะพอเจาะ อย่างเรื่องที่รายการมีการทำพีอาร์หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ซูซานฟีเวอร์แล้ว ยอดผู้ชมและยอดการโหวตพุ่งพรวดไปเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการทำรายการมาทั้งหมดสามปี ไม่ว่าจะทั้งรายการอื่นๆจากฝั่งมะกันและตัวผู้ดีเอง ก็คอยที่จะตามติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด (ถึงขนาดทำให้ซูซาน ทำตัวไม่ถูกและเคยคิดที่จะถอนตัวจากรายการนี้เลยทีเดียวเนื่องจากการรับสภาพการเป็นที่จับตามองในเวลาข้ามคืนไม่ได้) ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องที่เธอกล้าที่จะเอาความฝันของตัวเองมาเป็นแรงขับดันให้เธอขยันฝึกซ้อม เพื่อเพิ่มศักยภาพการแสดงของเธอให้เป็นที่พอใจทั้งตนเองและผู้อื่น จากทั้งสองเรื่องที่เอ่ยมา ก็อยากจะบอกว่า ถ้ามีโอกาสที่จะก้าวตามความฝันของเรา อย่าได้ปล่อยโอกาสนั้นไปจากมือของเราเองเลยครับ เพราะถ้าเราไม่คิดที่จะเริ่มทำ คนอื่นๆคงไม่มีใครที่จะรู้ได้แน่ว่า เรามีความฝันอะไรและมีอะไรดีที่แตกต่างโดดเด่นจากคนอื่นอย่างไร ผมเชื่อมาเสมอว่า ถ้าคุณมีดี แล้วไม่นำเสนอมาอยากถูกต้อง เหมาะสม ไม่ว่าจะจากทางโอกาสหรือจากดวงของเรา (อันนี้สำคัญเหมือนกันนะครับ) มันคงจะยากเหมือนกันที่จะให้มันโดดเด่นออกมาจากฝูงชนที่นับวันมันจะเพิ่มขึ้นทุกวันๆ เพราะฉะนั้น สู้ต่อไปครับ แล้ววันนึงคุณจะต้องก้าวเข้าใกล้ความฝันของตัวเองได้อย่างแน่นอน ดูตัวอย่างอย่างผู้หญิงที่ชื่อว่า ซูซาน บอยด์คนนี้ก็ได้
PS. ซูซาน ได้ถูกยกย่องว่าเป็นตัวแทนของการที่มีความสามารถโดยที่ไม่ต้องพึ่งพารูปลักษณ์ภายนอก---มันน่าภูมิใจไม๊เล่า เท่ชะมัดเลย
PS2. ทาง Thailand Got Talents เหมือนจะเอาผู้หญิงป้าๆแก่ๆคนนึงมาร้องเพลง I dreamed a dream ให้มันมีกลิ่นๆเหมือนซูซานอยู่บ้าง แต่อยากบอกว่า มันแป๊กซะเหลือเกิน คงคิดว่าคนอื่นเค้าไม่เคยดู youtube มาก่อนเหรอไง อันนี้เป็นตะกอนของความรู้สึกที่ผมผิดหวังกับระบอบ Entertainment show ของไทยที่หวังแต่จะเลียนแบบของต่างชาติแล้วก็พยายามกระพือปีกบอกว่าตัวเองคิดเองก็เหอะ บอกได้คำเดียวครับว่า เจ็บปวด
“Three Yes”
วู้ดดี้ เกิดมาร้อง
16 July 2011
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น