วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ป๋อ ห่อ โปรเจ็ค#1 - เทศกาลไหว้พระจันทร์


 15 ค่ำเดือน 8 เรามาไหว้พระจันทร์กันดีกว่า

แม้นว่าจะได้เลยเทศกาลที่หลายๆคนรอคอยหรือว่าคุ้นตาที่ชื่อว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์มาแล้ว แต่วู้ดดี้ก็เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากทราบเรื่องราวหรือที่มาของเทศกาลนี้อยู่เหมือนกัน ว่าจริงๆแล้วที่มามันมาได้อย่างไร แล้วพระจันทร์เค้าอยู่ของเค้าดีๆ มนุษย์ปุถุชนเดินดินอย่างเราจะอุตริจุดธูปจุดเทียนไหว้ทำไม หรือว่าเค้าคิดกันอย่างไร ตัววู้ดดี้เลยถือโอกาสนี้เอาเรื่องไหว้พระจันทร์มาเป็นตัวเปิดจุกของ โปรเจ็ค ป๋อห่อ ซะหน่อยเลยดีกว่า จะได้เป็นสิริมงคล อะคริอะคริ

วันไหว้พระจันทร์ในภาษาจีน จะถูกเรียกว่า “จงชิว” เหตุเนื่องจากวันนี้มันดันไปตกอยู่ที่ปฎิทินจันทรคติในเดือนแปดซึ่งเป็นกลางฤดูใบไม้ร่วง (ภาษาจีนแบ่งฤดูเป็น เมิ่ง จ้ง จี้) จึงไม่แปลกที่จะเรียกว่า “จ้งชิว” ได้เหมือนกันตามการเรียกชื่อของฤดูกาล ว่ากันว่า วันไหว้พระจันทร์จะเป็นวันนึงในรอบปีที่พระจันทร์จะมีความสว่างกลมสวยมากที่สุด เพราะฉะนั้นจึงมีเรื่องความเชื่อมากมายเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ควบคู่ไปกับหญิงสาว ตัวแทนแห่งความสวยงามซึ่งวู้ดดี้จะกล่าวในรูปต่อๆไป


อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเทศกาลไหว้พระจันทร์มีความเกี่ยวพันเกี่ยวดองกับอิสตรีเพศอยู่มากมาย แน่นอนครับ ตำนานที่โด่งดังเป็นที่รู้จักแพร่หลายก็หนีไม่พ้นเรื่อง “ฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์” (嫦娥奔月) บางตำนานก็อ่านออกเสียงเป็นฉางอี เข้าใจว่าน่าจะเป็นที่สำเนียงการแปลของแต่ละคนนะครับ คงอาจจะต้องเท้าความกันซะนิดหน่อย คือก่อนที่จะมีตำนาน ฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์แบบเต็มรูปแบบเนี่ย มันเริ่มมาจากสมัยจั้นกว๋อ ช่วงสมัยสงครามปี 475-221 ก่อนคริสต์ศักราช มีคำกล่าวเกี่ยวกับสาวงามผุ้หนึ่งได้กินยาอายุวัฒนะของเจ้าแม่ซีหวังหมู่เข้าไปแล้วกลายร่างเป็นเทพธิดาอมตะแห่งดวงจันทร์ ต่อมาในราชวงศ์สุยกับถัง ก็ได้มีการแต่งเติมเรื่องราวให้ใกล้เคียงกับความคิดที่ว่าพระจันทร์มีความสวยงาม ดูน่ารัก จึงมีตำนานบอกเราไว้ว่า สมัยโบราณกาล โลกเราไม่ได้มีดวงอาทิตย์อย่แค่ดวงเดียว แต่ว่ามีอยู่ถึงสิบดวง (ร้อนตายเลย) แน่นอนว่าชาวบ้านจะต้องเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า เนื่องจากความร้อนได้พุ่งตรงมาแผดเผาโลกเราซะจนร้อนระอุเป็นเปลวเพลิง แม่น้ำแห้งขอด ต้นไม้ใบหญ้าก็เหี่ยวแห้งล้มตายไป ร้อนถึงวีรบุรุษในช่วงขณะนั้นนาม “โฮ่วอี้” ผู้มีฝีมือเป็นเลิศในด้านการยิงธนู ขอขันอาสาแก้ปัญหาโดยการแบกเอาธนูคู่ชีพ ไปดับดวงอาทิตย์ต้นเหตุแห่งความเดือดร้อน เพียงแค่ธนูดอกเดียวที่โฮ่วอี้ได้ยิงขึ้นสู่ฟ้า ดวงอาทิตย์ก็ตกลงมาดับถึงเก้าดวงเหลืออยู่เพียงดวงเดียว จะเหลือเหรอครับที่ชาวบ้านจะไม่สรรเสริญเยินยอ ยกย่องสถาปนาให้โฮ่วอี้เป็นกษัตริย์ปกครองบ้านเมือง แต่เรื่องมันดันไม่จบสวยง่ายๆแบบนี้ตรงที่ว่า หลังจากที่ได้เป็นกษัตริย์แล้ว โฮ่วอี้ก็ลุ่มหลงในสุรา นารี คอยเข่นฆ่าผู้คนตามอำเภอใจ พวกชาวบ้านก็รู้สึกเสียใจและโกรธแค้นกับการกระทำของโฮ่วอี้ ด้านตัวของโฮ่วอี้ก็รู้ตนเองดีอยู่แล้วว่าได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมากมาย เวลาแห่งความสุขตนคงมีอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นจึงออกดั้นด้นไปที่ภูเขาคุนลุ้น เพื่อจะขอยาอายุวัฒนะจากเจ้าแม่หวังหมู่มากินเพื่อให้ไม่แก่ไม่ตาย แต่นางฉางเอ๋อ ภรรยาของโฮ่วอี้กังวลว่า ถ้าสามีของตนไม่มีวันตาย มันคงจะยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้อย่างเต็มที่เกินไป จึงตัดสินใจกินยาอายุวัฒนะนั้นเสียเอง แต่พอกินยาเข้าไป ก็เกิดความรุ้สึกเบาหวิวและล่องลอยไปจนถึงดวงจันทร์ นับแต่นั้นมาบนพระจันทร์ก็จะปรากฎรูปเทพธิดาซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตัวฉางเอ๋อนั่นเอง


ประเพณีการไหว้

ไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทยหรือว่าประเทศจีนเท่านั้นที่มีประเพณีการไหว้พระจันทร์ แต่ไม่ว่าประเทศไหนที่มีคนจีนแฝงแทรกตัวเข้าไปอยู่ก็จะมีการจัดงานหรือประเพณีการไหว้อยู่ทุกๆปี ชาวจีนโดยทั่วไปจะจัดโต๊ะหมู่บูชาอยู่ที่หน้าบ้านไว้สักการะพระจันทร์ เพื่อเป็นการขอพรกับพระจันทร์ให้ครอบครัวและชีวิตของตนเองมีความสุข ของแต่ละอย่างบนโต๊ะก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละประเทศก็มีวิธีการจัดโต๊ะแตกต่างกันไปเช่นกันตามของที่หาได้ในแต่ละประเทศ หากแต่ว่าผลไม้ที่ใช้ก็จะเน้นที่มีลักษณะเป็นผลกลมเพื่อความกลมกลึงของชีวิตและก็หมายถึงพระจันทร์อีกด้วย (แน่นอน ไหว้เจ้าต้องใช้ผลไม้ ไม่รู้ว่าทำไม แต่เดาว่าน่าจะเป็นเพราะว่าเป็นสิ่งที่ไม่ต้องไปเบียดเบียนชีวิตของใคร) สิ่งที่ขาดไม่ได้แน่นอนก็ต้องเป็นขนมไหว้พระจันทร์ (ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันอยู่เพราะว่ามันเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของประเพณีนี้เลย ดังนั้นวู้ดดี้จึงขออนุญาติพูดถึงขนมไหว้พระจันทร์ในหัวข้อถัดไป) มีขนมโก๋ ลวดลายสวยงามเพื่อให้ผิวพรรณที่ขาวสวย บ้านเจดีย์น้ำตาลเพื่อเป็นตัวแทนของปราสาทแห่งสวรรค์หรืออาจะใช้เป็นซุ้มกระดาษก็ได้เพื่อเป็นที่ประทับของเทพ (ไม่แน่ใจว่าออกเสียงถูกรึเปล่าแต่อันนี้อ่านว่า “ไต๊เนี้ย”) กระดาษรูปเซียน 8 องค์ เทียนดอกใหญ่ อ้อยต้นใหญ่เพื่อที่จะมาทำเป็นซุ้มประตูและโคมไฟลวดลายสวยงาม โดยจริงๆแล้วการจัดโต๊ะจะมีวิธีจัดที่ถูกต้องแต่ปัจจุบันนี้เน้นหลักความสะดวกสบาย จัดยังไงสวยกว่าก็จัดแบบนั้น แต่ที่สำคัญต้องหันโต๊ะไปทางทิศตะวันออก และอีกอย่างที่ตอนนี้จะพบเห็นได้ชัดเจนก็คือ จะนำเอาเครื่องสำอางค์มาไหว้พระจันทร์ด้วย สืบเนื่องมาจากว่าทุกๆคนเข้าใจว่าการไหว้พระจันทร์มีความผูกพันกับเรื่องความสวยความงาม อีกทั้งพระจันทร์ถือว่าเป็นธาตุหยิน เป็นอิสตรี มันก็คงจะไม่แปลกมั้งถ้าจะต้องรักสวยรักงามเหมือนสาวๆทั่วๆไป เพราะฉะนั้นคนที่เดินผ่านโต๊ะไหว้จะชินตากับการที่ได้เห็น Lancome, Lamer, Shishedo หรือว่า กวนอิมสครับประดับอยู่ที่โต๊ะหมู่บูชาด้วย ^_^

ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม จะมาเพ่ิมให้นะครับ จิงๆแล้วข้อมูลมีอีกเพียบ แต่ไม่มีเวลาเลยจริงๆ T_T

วู้ดดี้ เกิดมากลม (เหมือนพระจันทร์)
21 Oct 2010

Ref: ขอขอบพระคุณเจ้าของบ้านที่อนุญาตให้เราได้สอบถามข้อมูลและถ่ายภาพโต๊ะไหว้มาเป็นข้อมูล อยากจะบอกว่า มีแบบอลังมากกว่านี้อีก แต่กลัวจะเต็มบล็อกเกินไป 555

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More