วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Kungfu Panda2 - ฤาว่า ราชาการ์ตูนอย่างวอลท์ ดีสนีย์ จะถูกเลื่อยขาเก้าอี้ซะแล้ว


อย่างว่าครับว่าการจะทำอะไรให้มันน่าสนใจ หรือว่าประสบความสำเร็จ มันคงต้องสอดส่ายตา มองดูซะหน่อยว่า ณ ช่วงเวลานั้นๆ มันมีเรื่องอะไรที่กำลังตามกระแสให้สังคมได้เบิ่งตากรอกดูตามหน้าสื่อต่างๆอยู่บ้าง เพื่อที่จะได้ขึ้นชื่อว่าไม่ตกเทรน หรือบางคนอาจจะเกาะกระแสนั้น จับธุรกิจทางการตลาดจนสร้างเนื้อสร้างตัวกันไปได้เลยทีเดียว และแน่นอนครับ ว่าตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวสองสี ขนฟู น่ารัก น่ากอดจากดินแดนเหนือชาวบ้านกันหมด ซึ่งก็คือ แพนด้า นั่นเอง

งง..งงละสิว่ามันเกี่ยวอะไรกับราชาการ์ตูนอย่างวอลท์ดิสนีย์ที่ได้เอ่ยหัวชื่อไว้ชัดเจน ก็มันจะไม่เกี่ยวได้อย่างไรกันเล่าครับ เพราะว่าตอนนี้มันดันมีหนังใหม่ที่ช่างเลือกเวลาได้เหมาะเจาะเหมาะเหม๋งซะจิง ที่มาช่วงที่เจ้าหลินปิง แพนด้าน้อย ณ เชียงใหม่อายุครบขวบปีซะแล้ว เลยเป็นการสร้างกระแสบวกเพิ่มเติมไปจากความน่ารักของเจ้าแพนด้าน้อยเข้าไปอีก (มันจะลงตัวอะไรขนาดนั้นที่ในหนังก็ดันมีช่วงที่พูดถึง นักรบมังกรตอนเด็กอีก เลยยิ่งไปผูกกับเจ้าหลินปิงได้อีกนั่น – น้อยคนที่จะไม่หลงใหลในความน่ารักของโพตอนเด็กจริงๆ) เอาเถอะครับ เข้าเรื่องดีกว่าที่ว่าทำไมถึงว่า ค่ายแอนิเมชั่นชื่อดังจะต้องร้อนๆหนาวๆกับหนังค่ายคู่แข่งตลอดการอย่าง Dreamwork เพราะว่าหนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่กระแสดี แต่ว่าเนื้อเรื่องก็น่าสนใจและชวนให้ติดตามได้อย่างตลอดทั้งเรื่องจริงๆ อีกทั้ง มุขตลกก็เพิ่มมากขึ้นกว่าภาคแรกหลายเท่า ไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะคิดเหมือนกันรึ เปล่า แต่ตัววู้ดดี้รู้สึกว่า ภาคนี้ โพดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังตลกเหมือนเดิม อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แถมสุดท้ายมีทิ้งท้ายให้แสบๆคันๆกันนิดนึงด้วยมุขที่ว่า ดูแล้วรู้เลยว่า ต้องมีภาคสามให้ชมกันอย่างแน่นอน ก็คงต้องมาลองดูกันครับว่า ปีนี้ วอลท์ดิสนีย์จะมีไม้ตายอันไหนมาตีหนังแอนิเมชั่นดีๆอีกเรื่องในเวทีออสการ์ ส่วนพวกเราที่เป็นผู้บริโภคก็ได้รับผลประโยชน์ร่วมไปด้วย จากการที่จะได้เสพหนังดีๆเรื่อยๆไป 

วันนี้ไม่ค่อยอยากพูดเรื่องหนังเยอะ เพราะว่าอยากให้ไปชมกันเองดีกว่า ก็เลยว่า มาพูดถึงเรื่อง สัตว์ประจำชาติประเทศมหาอำนาจอย่างจีนกันหน่อยดีกว่าว่ามันมีเรื่องแปลกๆที่วู้ดดี้ได้ไปรับผ่านตาผ่านหูทั้งตอนไปชมตัวจริงและสารพันสารคดีต่างๆ (เขียนไปนานละ แต่ว่ายังไม่ได้เอามาลง)


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแพนด้าน้อยผ่านทางวู้ดดี้ เกิดมาเล่า

1. เมืองไทยเจ๋งตรงที่เป็น 1 ใน 9 ประเทศที่มีแพนด้าอยู่ในครอบครอง (ประเทศที่ 10 คือ สิงค์โปร์ที่น่าจะได้ในปีนี้)

2. คนส่วนมากคงรู้แล้วว่า แพนด้า ตอนที่เกิดมา ตัวจะเป็นสีขาวอมชมพูและจะค่อยๆมีสีดำที่ขอบตา แขน ขาและลำตัวเมื่อโตขึ้น แต่ใครจะรู้ว่า แม่แพนด้าจะคอยเลียหัวนมตัวเองฝั่งที่ลูกแพนด้ายังไม่ได้กินเพื่อกระตุ้นและเตรียมพร้อมให้ลูกสลับมากิน และจะเลียก้นลูกตอนกินเสร็จแล้ว (ไม่กล้าจะคิด)

3. จากที่ไปดูแพนด้ามา แพนด้าเป็นสัตว์ที่นอนเก่งชะมัด

4. นอกจากที่มีกล้องคอยจับตาดูเจ้าหลินปิงตลอด 24 ชม.แล้ว แพนด้าแต่ละตัวในสวนสัตว์จะมีพนักงานประจำตัวคอยจดบันทึกตลอดเวลาว่าทำอะไรมาบ้าง ไม่ว่าจะกิน นอน ถ่าย เดาว่า ถ้าไปดมตดแพนด้าได้ คงปีนเข้าไปแล้วว่ามันเป็นกลิ่นยังไงด้วยละ

5. แพนด้ามันจะรู้ตัวหรือไม่ว่า คนให้ความสำคัญกับมันมาก จนให้เป็นสัมพันธทูตไมตรีของประเทศจีนเลยทีเดียว ขนาดหลินปิงมันเริ่มฉี่ครั้งแรก ยังต้องจดบันทึกมาบอกเล่ากันเลย – อยากรู้ป่ะ?? ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นตอนวันที่ 158

6. แพนด้าที่ไทยถือว่าสะอาดมาก ถ้าเทียบกับที่อื่นที่ตัวจะออกเป็นสีเหลือง มอๆ ไม่เหมือนไทยที่ค่อนข้างขาว อาจเป็นไปได้ว่า ของเราไม่ค่อยมีพื้นที่ที่เป็นดินมากเท่าไหร่ หรือไม่ก็เพราะว่าเป็นคนเหนือเจ้า

7. ใครจะรู้ว่า แพนด้าไม่อาบน้ำ เพราะว่ากลัวน้ำมันที่ชโลมอยู่ตามขนของมันจะหลุดไป แต่จะใช้การเช็ดตัวแทนด้วย “น้ำอุ่น”

8. เห็นแพนด้าดูภาพลักษณ์น่ารักๆอย่างงี้ แต่ดันรักสันโดษเข้าขั้นมาก ถ้าเอาแพนด้ามาอยู่รวมกัน หลายๆตัว อาจจะมีการทำร้ายหรือเล่นกันรุนแรงเกินไปจนถึงขั้นบาดเจ็บได้ และแน่นอน ถ้าคนเข้าไปยุ่มย่าม ก็อาจจะโดนทำร้ายด้วย!!! เพราะฉะนั้น ไม่แปลกเลยที่ก่อนจะมีการทำความสะอาดกรง พนักงานจะต้องเปิดห้องให้แพนด้าเข้าไปในห้องนอนก่อนเก็บกวาดหรือ ตอนตรวจร่างกายต้องต้อนเข้ากรงก่อนเพื่อป้องกันอันตราย

9. ไผ่ที่ให้แพนด้ากินมี 2 แบบ (เท่าที่เห็นนะ) มีแบบเป็นใบๆ กับแบบก้าน ซึ่งแบบก้าน แพนด้าจะกินแต่แกนด้านใน แล้วทิ้งเปลือกด้านนอกเลย (ตัวนี้เป็นตัวที่ทำให้กรงดูเลอะเทอะมาก) ส่วนแบบใบ จะเด็ดกินแต่ใบด้วยปากและรวบรวมกินที่เดียวจากอุ้งมือ

10. อึแพนด้าเป็นสีเหลือง

11. จากตำนวนของจีนโบราณ กล่าวไว้ว่า ที่แพนด้ามีขอบตาดำ เพราะว่า เศร้าเสียใจที่คนดูแลตนเองถูกคันศรยิงตาย เลยร้องไห้ ขยี้ตาจนขอบตาดำด้วยมือที่เลอะขี้เถ้าจากการเดินย่ำติดมือติดเท้ามา

12. นักวิทยาศาสตร์เคยสันนิษฐานว่า แพนด้าเป็นสัตว์กินเนื้อ จากการดูโครงสร้างของฟันที่มีเขี้ยว แต่สุดท้าย เนื่องด้วยสถานที่อาศัยไม่อำนวย จึงปรับสภาพมากินไผ่ที่หาได้ง่ายกว่ากินแทน แต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยของสัตว์กินเนื้ออยู่บ้าง

13. ใครจะรู้ว่า ทุกวันนี้ เราเช่าแพนด้าจากจีน.....จะบ้าตาย สิ่งมีชีวิตนะ ไม่ใช่สิ่งของ!!!!!!!

วู้ดดี้ เกิดมาเล่า
28/05/11

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More