ในความเข้าใจในตัวของวู้ดดี้เองนั้น คิดว่ามันน่าจะช้าเกินไปละที่จะมาเชิญชวนให้ไปหาดูชมหนังเรื่องนี้กัน เพราะจากที่ได้รับฟังกระแสมาหลายๆด้าน ก็จับใจความได้ว่ามันน่าจะดีพอเพียงที่เชิญชวนให้ทุกๆคนที่เสพเข้าไปอยากที่จะแปรสภาพเงินในกระเป๋าเงินตัวเองเป็นใบเบิกทางให้เข้าไปนั่งในโรงภาพยนตร์ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้คงขอไม่พูดถึงเยอะมากซักเท่าไหร่ละกัน
โดยส่วนตัวกับหนังเรื่อง Fast Five นี้ ค่อนข้างเอนเอียงไปที่ชอบถึงชอบมาก เพราะว่าเนือ้หาที่เข้าใจง่ายและเน้นเรื่อง Action ทำให้รู้สึกว่า ไม่ได้เบื่อหน่ายกับการนั่งอยู่กับที่นานๆเป็นชั่วโมงๆ แม้นว่าภาคนี้จะมีการเอาตัวละครเด่นๆจากภาคเก่าๆทั้งหมดมาอัดแน่นรวมอยู่ในภาคนี้ทีเดียวทั้งหมดก็ตามที่ ก็ยังทำเนือ้หาได้ลงตัวอย่างที่ไม่รุ้สึกว่า มันเยอะไปป่าววะ หรือว่า ไอ้ดำนี่มันเป็นใครวะ แล้วมาจากภาคไหน แถมยังมีการเอาขวัญใจเด็กไทยหลายๆคนช่วงห้าหกปีที่แล้วอย่าง เดอะร็อคมาเรียกคะแนนมาได้อีก โดยบทที่ได้รับเป็นศัตรูกับพระเอกของเรื่องตลอดการ อย่าง วิน ดีเซล แต่ก็ยังถูๆไถๆแถๆ ให้สุดท้ายทั้งสองคนนี้ ไม่ได้เป็นศัตรูหรือเด่นน้อยกว่ากันซักเท่าไหร่ เรียกว่ารักษาน้ำใจแฟนๆของทั้งสองเอาไว้ได้ทั้งหมดนั่นเอง ซึ่งถ้าหนังเรื่องนี้เป็นภาคที่สองหรือสาม ตัววู้ดดี้เอง อาจจะไม่ได้ซูฮกคนเขียนบทนี้ซักเท่าไหร่ เพราะว่าเนื้อเรื่องโดยรวมของมัน ยังไม่ได้มีมากเท่าที่ควร แต่ภาคนี้มันดันโคจรไปจนถึงภาค 5 แล้วนี่ซิ การที่จะเอาเนื้อเรื่องทั้งหมดที่ผ่านๆมา มาผูก มายำ มาผสมกันให้มันสอดคล้อง ไหลลื่นและมีเนือ้หาใหม่ที่ไม่จำเจอออกมาอีก จึงอยากจะบอกว่า คนเขียนบทของภาคนี้เค้าเซียนจริงๆ ถือได้ว่าเป็น เทพแห่งการแถมากๆ แต่อย่าว่ามันไม่ดีนะครับ มันแถได้กลมกลืนและกลมกล่อมมากๆ นี่ยังไม่นับตอนจบหลังจากขึ้นเครดิตหมดแล้ว ว่าแฟนเก่าของโดมินิกฟื้นคืนชีพมาอีก ซึ่งตัววู้ดดี้นับวันรอเลยครับ ว่าภาคหกคราวนี้ พี่แกเค้าจะแถแบบไหนอีกดี คารวะมากๆครับ แต่อยากบอกว่า ดูไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกเหมือนดูหนังเรื่อง Child Play อ่ะ แบบ ชักกี้ฟื้นคืนชีพแล้ว ฟื้นคืนชีพอีก ยังไงก็อย่าให้ออกทะเลมากนะครับ (ยอมรับอีกเรื่องว่าแอบรู้สึกว่า หนังสมัยนี้เริ่มเอามุขว่ามีอะไรเด็ดๆมาโชว์หลังเครดิตกันเยอะขึ้น เข้าใจว่าอยากให้ดูเครดิตให้จบ แต่มันมีไม่กี่คนจริงนะครับที่ดูแบบตั้งใจ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ ควรลองใช้วิธีอื่นดีกว่าที่จะให้คนมาดูเครดิตกันมากขึ้น)
ส่วนเรื่องเด่นอีกเรื่องที่รู้สึกได้ ของหนังเรื่องนี้คือ ไม่ค่อยได้เน้นเรื่องการขับรถมากซักเท่าไหร่ กลายเป็นว่า ไปเติมเรื่องการปล้นเงินตัวร้ายแทน โดยจะมีการวางแผนอย่างดี และมีการปรับเปลี่ยน หักมุม ซ่อนเงื่อนเยอะแยะ เป็นผลให้เพื่อนของวู้ดดี้คนนึง ถึงกับเอ่ยปากว่า ภาคนี้ทำให้คนดูผิดหวังเบาๆ เพราะว่าคนที่ตั้งใจมาดู The Fast เค้าอยากมาดูเรื่องการแข่งรถไม่ใช่มาดูเรื่องปล้น แต่ตัววู้ดดี้เองกลับมองคนละด้าน เพราะว่าการที่จะมีแต่เรื่องแข่งรถ แข่งรถ แข่งรถ อย่างเดียว มันน่าเบื่อครับ ควรจะมีเรื่องอื่นๆแฝงไปได้แล้ว ซึ่งผู้สร้างก็หยิบพล็อตเรื่องที่น่าจะได้รับความนิยมตลอดกาลอย่างเรื่องการวางแผนปล้นมาเล่น เพราะเห็นได้อยู่แล้วว่าพล็อตนี้ขายได้จาก หนังแนวนี้ที่ผ่านๆมาและได้รับการตอบรับกันเป็นอย่างดีอย่าง Ocean Eleven จนทำออกมาหลายภาคแล้วเหมือนกัน จึงขอตัดสินด้วยตนเองว่าความคิดนี้ตกไปครับ
ส่วนกระแสอีกเรื่องที่ได้ยินเข้าหูและสนับสนุนคือ ดาราเก่าที่ได้ถูกจับมาร่วมเล่นในภาคนี้ ชายหนุ่มเพื่อนสนิทของโดมินิก นามว่า ฮาน น่าจะได้รับกระแสตอบรับในเชิงบวกอยู่เยอะเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าหน้าตาที่เป็นเอเชีย เพิ่มความคุ้นเคยให้กับแฟนๆชาวไทย และบุคลิกทรงผมที่เท่ ดูเงียบ แต่ไม่ขรึม เพราะว่ามีกลิ่นอายของความน่ารักกับเรื่องการติดกินขนมตลอดเวลา คอยลดความแข็งกระด้างของนักแข่งรถหน้าเอเชียคนนี้ได้ สาวแท้และสาวเทียมคงจะจำชื่อจริงของมิสเตอร์ ฮาน คนนี้ไปได้อีกนานเลยนะครับคุณ ซุง กัง
สุดท้ายนี้ขอแสดงความชื่นชมกับหนังเรื่องนี้ด้วยที่ว่าไม่ลืมที่จะเตือนผุ้ชมให้กลับมาสู่โลกความจริงที่ว่า การขับรถในเรื่องเป็นเพียงการแสดง อย่าได้คิดว่าตัวเองเซียนขนาดที่จะขับเล่นเองได้ที่บ้านหรือบนสภาพถนนของประเทศสยามนี้ได้นะ เพราะฉะนั้น จำไว้ว่า อย่าเมาแล้วขับนะครับ ( เกี่ยวไรหว่า ;”] )
ขับรถปลอดภัยนะครับ
วู้ดดี้เกิดมาซิ่ง
17 May 2011
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น